MT4 Supreme Edition Trade Terminal

ดาวน์โหลด MT4 Supreme Edition และตรวจสอบว่า MetaTrader 4 ปิดอยู่ในระหว่างขั้นตอนการติดตั้ง

เพื่อเริ่มใช้ Trade Terminal ให้เปิดกราฟสำหรับสัญลักษณ์ใดก็ได้ในซอฟต์แวร์ MetaTrader 4 (MT4) Then add the expert advisor (EA) Admiral Trade Terminal เข้าในกราฟ คราวนี้เลือก:

1. ดับเบิ้ลคลิกที่ EA ในรายชื่อ MT4 Navigator แล้วลาก EA ไปบนกราฟ หรือ
2. คลิกขวาที่ชื่อแล้วเลือกแนบลงบนกราฟจากเมนูบริบท

โปรดทราบว่าคุณสามารถเปิดใช้ได้เพียงหนึ่ง EA ต่อกราฟใน MT4 หากมีการเปิดใช้ EA ในกราฟอยู่แล้ว การเพิ่ม Trade Terminal จะแทนที่ EA ที่มีอยู่ หากต้องการเปิดใช้ทั้ง Trade Terminal และ EA อื่นเพียงแค่เปิดมากกกว่าหนึ่งกราฟ

Trade Terminal จะใช้เต็มทั้งหน้าต่างกราฟ หากต้องการป้องกันไม่ให้สูญเสียการปรับแต่งและการตั้งค่าที่คุณทำไว้ในกราฟปัจจุบัน ให้ตรวจดูว่าได้เปิดกราฟใหม่เพื่อใช้งาน Trade Terminal แล้วหรือไม่

Trade Terminal ประกอบไปด้วย 3 ส่วนดังนี้:

1. Market Watch
2. ข้อมูลบัญชี
3. รายการคำสั่ง

คุณสามารถซ่อนข้อมูลบัญชีและรายการคำสั่งได้โดยการคลิกที่ลูกศรคู่ในแถบหัวข้อ ซึ่งจะให้พื้นที่ว่างสูงสุดกับ Market Watch นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับขนาดของหน้าต่างทั้งสามเพื่อให้มีพื้นที่ใช้งานตามวัตถุประสงค์ของคุณได้อีกด้วย หากต้องการทำเช่นนี้ ให้คลิกที่เฟรมเพื่อแยกหน้าต่างสองหน้าต่างและลากตามลำดับ

Trade Terminal แสดงการดำเนินการทั้งหมดในบัญชีของเทรดเดอร์ ไม่ใช่เพียงแค่คำสั่งที่วางโดย Trade Terminal เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังใช้ระบบอัตโนมัติหรือวางคำสั่งเทรดด้วยตัวคุณเองโดยใช้ฟีเจอร์ที่มีในตัว MT4 การดำเนินการนี้จะแสดงในรายการสรุปบัญชีและรายการคำสั่งของ Trade Terminal

Market Watch แสดงวิดเจ็ตการเทรดอย่าง Mini Terminal สำหรับแต่ละสัญลักษณ์ โดยแต่ละอันจะทำงานในลักษณะคล้ายคลึงกับ On-chart Mini Terminal ซึ่งมีอธิบายไว้ในคู่มือแยกต่างหาก

สัญลักษณ์ใน Market Watch ของ Trade Terminal จะซิงโครไนซ์กับ Market Watch ของ MT4 เอง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากต้องการเพิ่มหรือลบสัญลักษณ์จาก Trade Terminal คุณสามารถเพิ่มหรือลบได้จาก Market Watch ของ MT4 Trade Terminal จะซิงโครไนซ์กับรายการดังกล่าวภายในไม่กี่วินาที

โปรดทราบว่าความเร็วและการใช้งานโปรเซสเซอร์ของ Trade Terminal ขึ้นอยู่กับจำนวนของสัญลักษณ์ที่กำลังแสดง การใช้งานโปรเซสเซอร์ที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดความล่าช้าสำหรับการวางคำสั่งหรือการป้อนคำสั่งปิด

คุณสามารถวางคำสั่งซื้อหรือขายสำหรับแต่ละสัญลักษณ์ใน Market Watch ได้โดยใช้ปุ่มซื้อและขาย ตัวบอกสถานะที่ด้านบนของแต่ละวิดเจ็ตจะแสดงสถานะสุทธิของคุณในปัจจุบันสำหรับสัญลักษณ์นนั้น เช่น +0.10 หากคุณซื้อ 0.1 ล็อต, หรือ -0.10 หากคุณขาย 0.1 ล็อต

คุณสามารถควบคุมขนาดล็อต ตั้งค่า stop-loss, take-profit หรือ trailing stop ได้โดยการใช้ช่องด้านบนปุ่มซื้อและขาย

คุณสามารถเปิดเครื่องคำนวณการเทรดสำหรับแต่ละช่องได้โดยการกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้แล้วคลิกซ้ายช่องที่เกี่ยวข้อง

ยกตัวอย่างเช่น:

1. หากคุณวางแผนที่จะเทรด 0.25 ล็อตและคุณต้องการตั้ง stop-loss โดยมีจำนวนที่แน่นอนเท่ากับ €100 หรือเปอร์เซ็นต์ของเงินทุน คุณสามารถ
2. ctrl+คลิก ในช่อง S/L เพื่อเปิดเครื่องคำนวณและให้ระบบคำนวณจำนวนที่แน่นอนของ pip

หากการคำนวณที่แน่นอนไม่สามารถทำได้เนื่องจากข้อจำกัดด้านขนาดสำหรับการเทรด (เช่น เฉพาะล็อตเต็มจำนวนสำหรับ CFD) ระบบจะปัดเศษลงโดยประมาณ

เครื่องคำนวณจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักประกันที่ต้องการสำหรับคำสั่งใหม่หากคุณ ctrl+คลิกช่องล็อต

คุณสามารถวางคำสั่งที่รอดำเนินการ (จำกัดและหยุด) ได้โดยการคลิกที่ ปุ่มแล้วเลือกคำสั่งใหม่ เป็นไปได้ที่จะเลือกประเภทของคำสั่งและจุดเข้า, stop-loss, take-profit เป็นต้น

ราคาเข้าสำหรับคำสั่งที่รอดำเนินการสามารถกำหนดเป็นราคาคงที่ (เช่น 1.2351) หรือเป็นจำนวน pips ก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น:

1. หากคุณเลือก Buy Limit แล้วกรอก 20 pips แทนราคา เช่นนี้แล้ว
2. คำสั่งจำกัดจะสร้างไว้ที่ 20 pips ใต้ราคาในปัจจุบัน

แบบฟอร์มคำสั่งใหม่ (เข้าถึงได้ทาง ปุ่ม) และอนุญาตให้วางคำสั่ง OCO ด้วย โดยจะมีคำสั่ง OCO อยู่สองประเภท

1. OCO Breakout ให้คุณระบุสองราคาหรือสองค่าใน pips ด้านใดด้านหนึ่งของราคาปัจจุบัน Mini Terminal จะวาง Buy Stop และ Sell Stop ตามนั้น เมื่อเป็นไปตามหนึ่งในคำสั่งที่รอดำเนินการ อีกคำสั่งจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ โดยทั่วไปคุณจะใช้คำสั่งนี้เมื่อคาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่สำคัญแต่ไม่ทราบว่าทิศทางจะปรับขึ้นหรือปรับลง เช่น การเทรดตามข่าว หลายๆ กลยุทธ์การเทรดอิงตามการเทรด Breakout และฟังก์ชั่นนี้มีอินเทอร์เฟซที่สะดวกสำหรับการนั้น
2. OCO Reversion แจ้ง Mini Terminal ให้วางคำสั่ง Buy Limit และ Sell Limit แทนการวางคำสั่ง Buy Stop และ Sell Stop โดยทั่วไปคุณมักจะใช้คำสั่งนี้หากคาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งต่อด้วยการย้อนกลับมายังราคาในปัจจุบัน เช่น การกระเด้งออกจากระดับสูงสุดหรือต่ำสุดของเมื่อวานนี้

หากคุณพบว่าตัวเองใช้บางคำสั่งเป็นประจำ (เช่น ใช้ Buy Limit 20 pips ใต้ราคาปัจจุบัน พร้อมด้วย 100-pip S/L และ T/P) คุณสามารถบันทึกเป็นเทมเพลตเพื่อการเรียกใช้ใหม่ได้อย่างรวดเร็วในอนาคต เพียงแค่:

1. คลิก ปุ่ม
2. กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มคำสั่งใหม่
3. คลิกปุ่มบันทึกเทมเพลตแล้วเลือกชื่อสำหรับพรีเซ็ต

จากนั้นคุณจะสามารถใช้เทมเพลตที่บันทึกไว้ได้อย่างรวดเร็วในอนาคตโดย:

1. กด ctrl+คลิกค้างไว้ จากนั้น
2. เลือกเทมเพลตที่บันทึกไว้จากรายการ และ
3. คำสั่งของคุณจะดำเนินการโดยอัตโนมัติ

โปรดทราบว่าโปรแกรมจะไม่ขอการยืนยันเพิ่มเติมหากคุณวางคำสั่งด้วยวิธีนี้

หากต้องการปิดสถานะที่เปิดอยู่ ให้คลิกที่เครื่องหมายสถานะที่ด้านบนสุดของ Mini Terminal (ข้อความที่เขียนว่า +0.10, -0.50 เป็นต้น) และสไลด์เปิดแผงตัวเลือก

แผงแสดงความสามารถในการทำกำไรของคำสั่งของคุณเป็นเงินและ pips ราคาที่ต่ำกว่ากำไรใน pips คือราคาเข้าเฉลี่ยของสถานะหากมีคำสั่งที่เปิดอยู่มากกว่าหนึ่งคำสั่ง

ที่นี่คุณสามารถเลือกที่จะปิดคำสั่งของสัญลักษณ์ที่เปิดอยู่ (การเทรดที่กำไรหรือขาดทุนทั้งหมด) หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือกลับตัวของสถานะที่เปิดอยู่

MT4 มีฟีเจอร์ทันสมัยมากมายสำหรับการปิดคำสั่ง เช่น:

1. ปิดทั้งหมด – ปิดสถานะรวมถึงคำสั่งที่รอดำเนินการทั้งหมด
2. ปิดสถานะที่เปิดอยู่ – ปิดการเทรดที่ทำงานอยู่ทั้งหมด (คำสั่งที่รอดำเนินการยังคงเปิดอยู่)
3. ลบคำสั่งที่รอดำเนินการ – ลบเฉพาะคำสั่งที่รอดำเนินการเท่านั้น
4. ปิดกำไรทั้งหมด – ปิดคำสั่งที่ทำกำไรที่เปิดอยู่ทั้งหมด
5. ปิดขาดทุนทั้งหมด – ปิดคำสั่งที่ขาดทุนที่เปิดอยู่ทั้งหมด
6. ย้อนกลับ – ปิดสถานะในปัจจุบันและเปิดคำสั่งใหม่ในทิศทางตรงกันข้ามกับตลาด ด้วยปริมาณที่เท่ากัน
7. ป้องกันความเสี่ยง – เปิดคำสั่งใหม่ในปริมาณที่เท่ากันในทิศทางตรงกันข้ามกับตลาด โดยไม่ปิดคำสั่งในปัจจุบัน

คุณสามารถปิดคำสั่งแต่ละรายการได้โดยใช้หน้าต่าง MT4 ปกติ หรือใช้การตั้งค่า ส่วนขยาย และพรีเซ็ตต่างๆ ของ Mini Terminal ใหม่

คุณสามารถดูข้อมูลลสัญลักษณ์ไดโดยการคลิก ปุ่มแล้วเลือกข้อมูลสัญลักษณ์ นี่จะเป็นการเปิดหน้าต่างที่แสดงการเคลื่อนไหวของราคาต่ำที่สุดของสัญลักษณ์ รวมถึงขนาดการเทรดต่ำที่สุดและสูงที่สุด เป็นต้น

คุณสามารถเปิดหน้าต่างกราฟใหม่ได้โดยคลิกที่ ปุ่มแล้วเลือกกราฟใหม่

สรุปบัญชีจะแสดงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับบัญชีของคุณ เช่น ยอดคงเหลือ เงินทุน กำไร/ขาดทุนลอย หลักประกันที่เหลือ และจำนวนสถานะที่เปิดอยู่

คุณสามารถตั้งการเตือนในรายการใดก็ได้โดยคลิกที่ไอคอนระฆังถัดจากนั้น ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถขอให้มีการเตือนได้เมื่อ:

1. หลักประกันที่เหลืออยู่ต่ำกว่า $1000 หรือ
2. เมื่อจำนวนของสถานะเป็นศูนย์ (เช่น เมื่อสถานะทั้งหมดถูกปิดแล้ว)

การแจ้งเตือนจะแสดงเป็นข้อความเตือนแบบป๊อปอัพใน MT4 และสามารถส่งถึงคุณทางอีเมลได้อีกด้วย

เมื่อสร้างการแจ้งเตือน สีของไอคอนระฆังจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หากจากนั้นมีการแจ้งเตือน สีก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง

คุณตั้งค่าการแจ้งเตือนโดยระบุเกณฑ์ (เช่น 1000) และเลือกว่าการแจ้งเตือนควรปิดเมื่อค่า:

1. เกินเกณฑ์
2. ลดต่ำกว่าเกณฑ์
3. เท่ากับเกณฑ์พอดี หรือ
4. ไม่เท่ากับเกณฑ์

ยกตัวอย่างเช่น:

1. หากปัจจุบันมีสถานะที่เปิดอยู่สองรายการและคุณต้องการได้รับการแจ้งเตือนหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น จากนั้นคุณ
2. ป้อนค่า 2 สำหรับการแจ้งเตือนและเลือกตัวเลือกไม่เท่ากับ

การแจ้งเตือนสามารถตั้งค่าให้ปิดการทำงานหลังจากที่มีการดำเนินการแล้ว หรือสามารถตั้งค่าให้ทำซ้ำได้ ระยะเวลาการทำซ้ำเป็นการแจ้งเทอร์มินอลให้เพิกเฉยการแจ้งเตือนเป็นระยะเวลาหนึ่ง

ยกตัวอย่างเช่น:

1. หากคุณตั้งให้แจ้งเตือนเมื่อหลักประกันที่เหลือลดต่ำกว่า $1000 เช่นนี้แล้ว
2. ระยะเวลาการทำซ้ำจะป้องกันไม่ให้การแจ้งเตือนดำเนินการซ้ำ (ทุกๆ ไม่กี่วินาที) หากหลักประกันที่เหลือยังคงแกว่งไปมาระหว่าง $999 กับ $1001

คุณสามารถรับการแจ้งเตือนทางอีเมลที่เป็นตัวเลือกเมื่อมีการดำเนินการแจ้งเตือน เช่น เพิ่มเติมจากการแจ้งเตือนมาตรฐานที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ หากต้องการรับอีเมล คุณต้องเปิดการตั้งค่าอีเมลของ MT4 ซึ่งคุณสามารถกำหนดค่าได้โดยใช้เมนูหลักของ MT4 - เครื่องมือ > ตัวเลือก > อีเมล

คุณสามารถกำหนดค่าที่ต้องการดำเนินการได้สองแบบเมื่อมีการแจ้งเตือน

1. ปิดคำสั่งทั้งหมด จะพยายามปิดสถานะที่เปิดอยู่ทั้งหมดและลบคำสั่งที่รอดำเนินการทั้งหมดเมื่อมีการแจ้งเตือน โดยปกติจะใช้ให้สอดรับกับการแจ้งเตือนเรื่องหลักประกันที่เหลือ ซึ่งคุณต้องการปิดสถานะของคุณเพื่อป้องกันการเรียกหลักประกันเพิ่ม
2. ปิดกราฟทั้งหมด จะปิดกราฟ MT4 ทั้งหมดนอกเหนือจากกราฟของตัว Trade Terminal เองจุดประสงค์หลักของการดำเนินการนี้คือการป้องกันระบบอัตโนมัติ (EAs) ในกราฟอื่นๆ ไม่ให้วางคำสั่งเทรดเพิ่มเติม

รายการคำสั่งแสดงสถานะที่เปิดอยู่ทั้งหมดรวมถึงคำสั่งที่รอดำเนินการในบัญชีของคุณและมีเครื่องมือเพื่อจัดการคำสั่งเหล่านั้น ซึ่งมีการจำลองข้อมูลจากรายการคำสั่งในตัว MT4 และมีการเพิ่มรายละเอียดบางอย่าง เช่น ระยะเวลาในการเทรดและการทำกำไรเป็น pips

หาก ไอคอนถัดจากคำสั่งเปลี่ยนเป็น ซึ่งเป็นการระบุว่า Trade Terminal กำลังดำเนินการกับคำสั่งโดยอัตโนมัติ เช่น

1. Trailing Stop
2. การปิดอัตโนมัติ หรือ
3. คำสั่งนั้นอาจเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม OCA

คุณสามารถตรวจสอบได้ว่ากำลังดำเนินการสิ่งใดอยู่ โดยการคลิกที่ไอคอนแล้วเลือกงานที่กำลังดำเนินอยู่

คุณสามารถเรียงลำดับรายการคำสั่งตามคอลัมน์ใดก็ได้ เพียงคลิกที่ส่วนหัวเช่น ทิคเก็ต เพื่อเรียงลำดับจากน้อยไปมาก หรือคลิกอีกครั้งเพื่อเรียงลำดับจากมากไปน้อย

นอกจากนี้คุณสามารถจัดเรียงคอลัมน์ในรายการใหม่โดยการลากส่วนหัว เพียงแค่กดปุ่มเมาส์ด้านซ้ายค้างไว้ที่ส่วนหัว จากนั้นลากเมาส์ไปยังตำแหน่งใหม่ที่คุณต้องการวางคอลัมน์

นอกจากนี้ คุณยังสามารถแสดง/ซ่อนคอลัมน์ได้โดยการคลิกที่ลูกศรถัดจากคอลัมน์แล้วเลือกว่าจะให้แสดงหรือซ่อนเมนูคอลัมน์ใด

คุณสามารถปิดสถานะที่เปิดอยู่หรือลบคำสั่งที่รอดำเนินการได้โดยคลิกที่ปุ่ม ถัดจากรายการนั้น

ตัวเลือก ปิด ในแถบเครื่องมือเหนือรายการคำสั่งจะมีตัวเลือกสำหรับการปิดหลายคำสั่ง โดยรวมถึง:

1. ปิดทั้งหมด – ปิดสถานะรวมถึงคำสั่งที่รอดำเนินการทั้งหมด
2. ปิดสถานะที่เปิดอยู่ – ปิดการเทรดที่ทำงานอยู่ทั้งหมด (แต่ไม่ส่งผลต่อคำสั่งที่รอดำเนินการ)
3. ลบคำสั่งที่รอดำเนินการ – ลบคำสั่งที่รอดำเนินการทั้งหมด (แต่ไม่ส่งผลต่อสถานะที่ทำงานอยู่)
4. ปิดกำไรทั้งหมด – ปิดคำสั่งที่ทำกำไรที่เปิดอยู่ทั้งหมด
5. ปิดขาดทุนทั้งหมด – ปิดคำสั่งที่ขาดทุนที่เปิดอยู่ทั้งหมด

คุณสามารถดำเนินการกับคำสั่งต่างๆ ได้ รวมถึงการปิดบางส่วน เปลี่ยน S/L และตั้งค่า Trailing Stop

หากต้องการเข้าถึงฟังก์ชั่นเหล่านี้:

1. คลิกที่ สัญลักษณ์ถัดจากแต่ละคำสั่ง
2. เลือกคำสั่งทั้งหมดภายใต้เครื่องมือในแถบเมนูเหนือรายการคำสั่ง จากนั้นเมนูป๊อปอัพจะดำเนินการตามที่คุณต้องการ (เช่น การปิดบางส่วน) ในทุกคำสั่ง
3. เลือกคำสั่งบางส่วนในรายการแล้วเลือกคำสั่งที่เลือกจากเมนูเครื่องมือ
4. คลิกที่ สัญลักษณ์ในหน้าต่างสรุป

คุณสามารถเลือกหลายคำสั่งจากรายการเพื่อดำเนินการเฉพาะกับคำสั่งที่เลือกไว้เท่านั้นได้ รายการคำสั่งจะทำตามลักษณะการทำงานมาตรฐานสำหรับแอพพลิเคชั่นของ Windows

1. คลิกที่รายการ เลือกแถวนั้นเท่านั้นและยกเลิกการเลือกรายการที่เลือกไว้ก่อนหน้านี้
2. การใช้ shift+คลิก เลือกรายการทั้งหมดระหว่างรายการที่เลือกอยู่ในปัจจุบันกับรายการที่คุณเพิ่งคลิก ยกตัวอย่างเช่น
   1. หากมีห้ารายการในรายการคำสั่ง และ
   2. คุณต้องการเลือกรายการตั้งแต่สองถึงสี่ จากนั้นคุณ
   3. คลิกรายการที่สองแล้ว shift+คลิก ที่รายการที่สี่
3. การใช้ ctrl+คลิก จะสลับรายการ หากรายการที่ต้องการไม่ได้ถูกเลือกอยู่ในปัจจุบัน การดำเนินการนี้จะเป็นการเลือกรายการนั้น หากเลือกไว้แล้ว การดำเนินการนี้จะยกเลิกการเลือก คุณสามารถเลือกรายการทั้งหมดในรายการและยกเว้นรายการเดียวได้โดย:
   1. คลิกที่รายการที่หนึ่ง และ
   2. shift+คลิก ที่รายการสุดท้าย จากนั้น
   3. ctrl+คลิก ที่คำสั่งที่คุณไม่ต้องการเลือก

เมื่อคุณเลือกบางรายการในรายการคำสั่งแล้ว คุณสามารถใช้ตัวเลือกคำสั่งที่เลือกในเมนูเครื่องมือได้ ฟังก์ชั่นนี้จะถูกปิดใช้งานหากยังไม่มีการเลือกคำสั่งในปัจจุบัน

คุณสามารถ:

1. ปิดคำสั่งบางส่วน และ
2. ตั้ง/แก้ไข stop-loss (S/L), take-profit (T/P) หรือ Trailing Stop (T/S)

ค่าสำหรับ stop-losses และ take-profit จะระบุเป็น pips แต่ S/L และ T/P สามารถตั้งเป็นจุดคุ้มทุนได้เช่นกัน เช่น ราคาเข้าของคำสั่ง

การปิดบางส่วนไม่สามารถดำเนินการได้ในทุกประการ ยกตัวอย่างเช่น คุณไม่สามารถทำการปิดพอดีที่ 50% ของคำสั่ง 0.03 ล็อตได้เนื่องจากไม่อนุญาตให้ใช้ขนาด 0.015 ล็อต การปิดบางส่วนจะปัดเศษลงเป็นขนาดล็อตที่ใกล้ที่สุดที่โบรกเกอร์ของคุณอนุญาตเสมอ

ยกตัวอย่างเช่น:

1. หากคุณขอปิด 50% ของคำสั่ง 0.03 ล็อต เช่นนี้แล้ว
2. ซอฟต์แวร์จะทำการปิด 0.01 ล็อต ปล่อย
3. คำสั่งให้เหลือ 0.02 ล็อต

โปรดทราบว่า Trailing Stop จะถูกประมวลผลโดยซอฟต์แวร์ Trade Terminal ไม่ใช่จากโบรกเกอร์ของคุณ Trailing Stop จะหยุดทำงานหากคุณปิด Trade Terminal (หรือ MT4)

คุณสามารถเปิดหน้าต่างป๊อปอัพสำหรับแต่ละคำสั่งได้โดยคลิกที่หมายเลขทิคเก็ตหรือคลิกที่ ไอคอนแล้วเลือกแก้ไข

หน้าต่างป๊อปอัพจะแสดง:

1. เข้าใกล้ S/L และ T/P มากเพียงใด (เช่น สำหรับคำสั่งซื้อ ระยะห่างจากราคาเสนอซื้อปัจจุบันจนถึง S/L) และ
2. ผลกระทบต่อยอดเงินด้วยหากแตะ S/L หรือ T/P

กำไรในปัจจุบันสำหรับคำสั่งจะแสดงอยู่ที่มุมบนขวาของหน้าต่าง และสามารถสลับระหว่างการแสดงเงินสดและ Pips ได้โดยการคลิก

คุณสามารถปิดคำสั่งได้โดยใช้ปุ่มสีแดงและเปลี่ยน S/L, T/P หรือ Trailing Stop ได้โดยคลิกที่ตัวเลือกที่เกี่ยวข้อง

การปิดอัตโนมัติให้คุณกำหนดกฎสำหรับการออกจากสถานะที่เปิดอยู่ ซึ่งอาจประกอบด้วยหลายส่วน (เช่น ออกจากสถานะเมื่อบรรลุเกณฑ์กำไร) และสามารถใส่ภาพและการแจ้งเตือนทางอีเมลได้ การปิดอัตโนมัติสามารถบันทึกเป็นเทมเพลตสำหรับการนำกลับมาใช้ซ้ำอีกครั้งในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว

โปรดทราบว่าการปิดอัตโนมัติจะถูกประมวลผลโดยซอฟต์แวร์ Trade Terminal ไม่ใช่จากโบรกเกอร์ของคุณ โดยจะหยุดทำงานหากคุณปิด Trade Terminal หรือ MT4

คุณสามารถสร้างการปิดอัตโนมัติและใช้อันที่มีอยู่ได้โดยเลือก:

1. ปิดอัตโนมัติจากเมนูเครื่องมือสำหรับคำสั่ง (หรือหลายคำสั่ง) จากนั้น
2. สร้างเพื่อกำหนดกฎการปิดอัตโนมัติใหม่ หรือ
3. แก้ไขหากมีการใช้งานการปิดอัตโนมัติในคำสั่งอยู่แล้ว

ที่ด้านบนขอแบบฟอร์มการปิดอัตโนมัติ คุณเลือกเกณฑ์ว่าจะใช้กฎนี้เมื่อใด

คุณเลือกเกณฑ์ เช่น กำไรของคำสั่งใน Pips หรือระยะเวลาและค่าสำหรับเกณฑ์ ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการให้ดำเนินการเมื่อมีการเปิดคำสั่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง คุณเลือก ระยะเวลาคำสั่ง, มากกว่าหรือเท่ากับ แล้วกรอกจำนวน 60

สำหรับทุกเงื่อนไขการปิดที่คุณกำหนด คุณสามารถกำหนดจำนวนการดำเนินการได้ เช่น ปิดคำสั่งบางส่วนหรือทั้งหมด, ตั้งค่า stop-loss หรือ Trailing Stop หรือส่งการแจ้งเตือนทางอีเมล เพียงแค่ทำเครื่องหมายที่ช่องถัดจากแต่ละรายการที่คุณต้องการดำเนินการแล้วกรอกข้อมูลในช่องที่เกี่ยวข้อง เช่น เปอร์เซ็นต์ของคำสั่งที่จะปิด

โปรดทราบว่าเปอร์เซ็นต์ของคำสั่งที่จะปิดจะระบุตามความสัมพันธ์กับขนาดเดิม ไม่ใช่ขนาดในปัจจุบันหลังจากปิดไปบางส่วนก่อนหน้านี้

ยกตัวอย่างเช่น:

1. หากคุณมีสองขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนมีการกำหนดค่าให้ปิด 50% ของคำสั่งนั้น เช่นนี้แล้ว
2. คำสั่งจะเป็นปิดทั้งหมดเมื่อถึงขั้นที่สอง

เมื่อคุณกำหนดการปิดอัตโนมัติแล้ว คุณสามารถบันทึกเป็นเทมเพลตได้โดยการคลิกปุ่มบันทึกเทมเพลต ในอนาคต คุณสามารถใช้เทมเพลตที่บันทึกไว้กับคำสั่งได้โดย:

1. เลือกปิดอัตโนมัติจากเมนูเครื่องมือ และ
2. เลือกเทมเพลตจากเมนูย่อย

คุณสามารถจัดระเบียบรายการเทมเพลตการปิดอัตโนมัติที่บันทึกไว้และลบรายการที่คุณไม่ต้องการอีกต่อไปได้โดยเลือกจัดการเทมเพลตจากเมนูย่อย

โปรดทราบว่าโปรแกรมจะไม่ขอการยืนยันเพิ่มเติมหากคุณวางคำสั่งด้วยวิธีนี้

เทมเพลตการปิดอัตโนมัติจะบันทึกเก็บไว้เฉพาะในพีซีของคุณเท่านั้น นี่หมายความว่าหากคุณต้องการใช้ MetaTrader 4 Supreme Edition บนพีซีเครื่องอื่น คุณจะต้อง:

1. โอนย้ายเทมเพลตไปยังเครื่องพีซีที่คุณต้องการใช้ หรือ
2. สร้างเทมเพลตใหม่

Trade Terminal ให้คุณสร้างกลุ่ม OCO ของคำสั่งที่รอดำเนินการ ที่ซึ่งคำสั่งทั้งหมดที่เหลือจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการดำเนินการหนึ่งในคำสั่ง

คำสั่ง OCO เป็นเพียงกลุ่ม OCA ซึ่งมีเพียงสองคำสั่งในกลุ่มเท่านั้น

โปรดทราบว่ากลุ่ม OCA จะถูกประมวลผลโดยซอฟต์แวร์ Trade Terminal ไม่ใช่จากโบรกเกอร์ของคุณ โดยจะหยุดทำงานหากคุณปิด Trade Terminal หรือ MT4

คุณสามารถสร้างกลุ่ม OCA ได้โดยเลือกสร้างกลุ่ม OCA จากเมนู OCA ตัวเลือกนี้จะใช้ได้เฉพาะเมื่อคุณมีคำสั่งที่รอดำเนินการอย่างน้อยสองรายการ เพียงเลือกชื่อที่จำง่ายสำหรับกลุ่มและเลือกคำสั่งที่รอดำเนินการที่คุณต้องการรวมไว้

คำสั่งเดียวอาจอยู่ในกลุ่ม OCA หลายกลุ่มและคำสั่งในกลุ่มสามารถเป็นสัญลักษณ์ที่ต่างกันได้ คุณสามารถลบกลุ่ม OCA ได้โดยเลือกลบกลุ่ม OCA จากเมนู OCA โปรดทราบว่าการดำเนินการนี้ไม่ได้เป็นการลบคำสั่งที่รอดำเนินการ เพียงแค่ป้องกันไม่ให้ Trade Terminal ใช้กฎ OCA ในคำสั่งเหล่านั้น

คุณสามารถดูสรุปสถานะที่เปิดอยู่ของคุณได้ (เช่น ตามสัญลักษณ์, ทิศทาง, ระยะเวลา เป็นต้น) โดยใช้เมนู สรุป ในแถบเครื่องมือเหนือรายการคำสั่ง ซึ่งเป็นการเปิดหน้าต่างลอย โดยจะมีข้อมูลรวมเกี่ยวกับคำสั่ง เช่น:

1. สรุปกำไร/ขาดทุนของสถานะที่เปิดอยู่ทั้งหมด
2. ปริมาณรวมของมูลค่าการเทรด
3. สถานะซื้อและขายแต่ละรายการ

คุณสามารถดำเนินการกับคำสั่งทั้งหมดในหนึ่งหมวดหมู่ได้โดยคลิกที่ ไอคอน

คุณสามารถควบคุมการตั้งค่าสำหรับ Trade Terminal (และสำเนาทั้งหมดของ On-chart Mini Terminal) ได้โดยเลือกการยืนยันและการตั้งค่าจากเมนูการตั้งค่า (ในแถบเครื่องมือเหนือรายการคำสั่ง)

ซึ่งมีตัวเลือกให้เลือกหลายแบบ:

1. ยืนยันคำสั่งใหม่ - เปิด / ปิดการยืนยันเมื่อคุณวางคำสั่งด่วน โดยการคลิกที่ปุ่มซื้อและขายสีเขียวและสีแดงในวิดเจ็ตการเทรด
2. ยืนยันการปิดทั้งหมด - เปิดหรือปิดการยืนยันเมื่อคุณปิดคำสั่งทั้งหมดสำหรับสัญลักษณ์ โดยการคลิกที่ตัวบ่งชี้สถานะ
3. โหมด Hedging - ค่าเริ่มต้นของ Trade Terminal ซึ่งเป็นลักษณะการทำงานมาตรฐานสำหรับ MT4 โดยรวม หากคุณวางคำสั่งซื้อแล้ววางคำสั่งขายสำหรับสัญลักษณ์เดียวกัน (หรือกลับกัน) ซอฟต์แวร์จะสร้างคำสั่งที่เปิดอยู่สองรายการ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเลือกใช้ซอฟต์แวร์ในโหมด Non-Hedging ได้ หากคุณเปิดคำสั่งซื้อแล้วคุณวางคำสั่งขาย คำสั่งขายนั้นจะปิดคำสั่งซื้อแทนการสร้างคำสั่งใหม่

ยกตัวอย่างเช่น:

1. หากคุณซื้อ 0.3 ล็อตแล้วคุณขาย 0.1 ล็อต เช่นนี้แล้ว
2. คุณจะเหลือคำสั่งซื้อ 0.2 ล็อต

โดยปกติ การปิด Hedging สามารถใช้เพื่อให้ปิดคำสั่งได้เร็วขึ้น การคลิกปุ่มอินเทอร์เฟซที่เป็นตัวแทนของประเภทคำสั่งที่ยังไม่ได้เปิดอยู่ในปัจจุบัน จะทำให้ผู้ใช้สามารถปิดหรือปิดบางส่วนของคำสั่งที่เปิดอยู่ หากเปิดใช้งาน Hedging จะเป็นแค่การเปิดคำสั่งใหม่

นอกจากนี้ เมนูที่แสดงให้คุณสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนด้วยเสียงสำหรับเหตุการณ์บางอย่างได้อีกด้วย เลือกเสียงและตั้งเป็นเหตุการณ์ โดยรวมถึง:

1. คำสั่งเข้าตลาดใหม่
2. คำสั่งที่รอดำเนินการใหม่
3. เปิดใช้งานคำสั่งที่รอดำเนินการ
4. ปิดสถานะ
5. ลบคำสั่งที่รอดำเนินการ

ปุ่มทดสอบให้คุณเล่นเสียงที่เลือกได้

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้บันทึกการตั้งค่าแล้ว มิฉะนั้นจะถูกยกเลิก

นี่จะช่วยให้คุณสามารถเทรดจากหลายหน้าจอได้ในเวลาเดียวกัน

คุณสามารถแยกจาก Trade Terminal ให้เป็นหน้าต่างลอยได้โดยคลิก ปุ่มการตั้งค่าแล้วเลือกแยกจากเทอร์มินอล คุณสามารถเทรดต่อได้ขณะที่่เทอร์มินอลแยกออกจากกราฟ หากต้องการรวมเข้ากับเทอร์มินอลอีกครั้ง ให้คลิกปุ่มเครื่องมืออีกครั้ง และเลือก รวมเข้าเทอร์มินอล

หรือคุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่านี้เมื่อเปิดใช้งาน Trade Terminal ได้ หากต้องการทำเช่นนี้ ให้เปลี่ยนแท็บ Inputs และตั้งค่า UndockAtStartup เป็น True

ข้อปฏิเสธการรับผิด:

Admirals SC Ltd ให้บริการส่วนเสริมเหล่านี้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยอิงจากเทคโนโลยี Expert Advisor ใน MT4 เช่นเดียวกับ EA ทั้งหมด สิ่งเหล่านี้จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อ MetaTrader ของคุณสร้างการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและเซิร์ฟเวอร์ของเรา Admirals SC Ltd ได้ทดสอบอย่างถี่ถ้วนและเชื่อมั่นในความน่าเชื่อถือทางเทคนิคของพวกเขา อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับเทคโนโลยีทั้งหมด อาจเกิดความผิดปกติที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจการทำงานของส่วนเสริมและปลั๊กอินทั้งหมดอย่างถ่องแท้ เช่น โปรดทดสอบการใช้งานด้วยบัญชีทดลองฟรีของ Admirals SC Ltd. ทั้งนี้ Admirals SC Ltd ไม่สามารถรับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดจากความยุ่งยากทางเทคนิค