Carry Trade คือ ? : กลยุทธ์ Carry Trade (แครี่เทรด) ทำอย่างไร

Jitanchandra Solanki
15 นาที

Carry Trade คือ ? คุณรู้หรือไม่ว่า Carry Trade คือหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งถูกพัฒนาโดยผู้บริหารกองทุนระดับแถวหน้า มันเป็นการซื้อและขายสกุลเงิน 2 สกุลเงินที่แตกต่างกัน โดยผู้ที่จะสามารถใช้กลยุทธ์ดังกล่าวได้ ต้องเป็นผู้ที่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ทางการเงินได้ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกลมาก ซึ่งทำให้การเข้าถึงตลาดการเงินทั่วโลก นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเดิมอย่างที่ไม่เคยเป็นมา และเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการศึกษาเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการทำ Carry Trade ในตลาด Forex จึงควรเป็นหัวข้อสำคัญที่คุณต้องศึกษา

Carry Trade คือ ?

แครี่เทรด หรือ Carry Trade คือ การที่เทรดเดอร์คนหนึ่งๆ ได้ "ยืม" ตราสารทางการเงินมาชนิดหนึ่ง และใช้ตราสารดังกล่าวในการ "ซื้อ" ตราสารทางการเงินอีกอย่างหนึ่ง พูดง่ายๆ ก็คือ "กู้เงินไปซื้อของ" โดย Carry Trade จะไปเล่นกับอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ กู้เงินจากประเทศที่ดอกเบี้ยต่ำๆ ไปลงทุนในประเทศที่ดอกเบี้ยสูงๆ (ซื้อสกุลเงิน)

อธิบายตัวอย่าง Carry Trade

ก่อนจะทำความเข้าใจว่า Carry Trade คืออะไรนั้น ลองนึกภาพถึงสถานการณ์ที่คุณได้กู้ยืมเงิน 5,000 EUR จากธนาคารหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้จากคุณ 1% ที่นี่คุณก็ได้นำเงินที่กู้ยืมมา นำไปซื้อพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทน 4% ต่อปี เท่ากับว่า กำไรของคุณคือ 3% (ลบออกด้วยค่าคอมมิชชั่น, ค่าธรรมเนียมต่างๆ) หลักสำคัญคือ คุณทำกำไรจากส่วนต่างของดอกเบี้ยนั่นเอง

อัตราดอกเบี้ยกับ Carry Trade Forex คือ ?

แครี่เทรดได้รับความนิยมอย่างมากในตลาด Forex มันคือการที่เทรดเดอร์ "กู้ยืมเงิน" หรือขาย (คำสั่ง Sells) ในสกุลเงินหนึ่งๆ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เพื่อนำเงินดังกล่าวไปซื้อสกุลเงินอีกสกุลเงินหนึ่ง ซึ่งเป็นสกุลเงินที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า

เทรดเดอร์จะต้องจ่ายคืนดอกเบี้ยต่ำๆ แก่เจ้าของสกุลเงินที่เทรดเดอร์กู้มา แต่ได้รับดอกเบี้ยผลตอบแทนที่สูงกว่าจากสกุลเงินที่ซื้อมา ความแตกต่างดังกล่าวนี้ รู้จักกันในชื่อที่เรียกว่า ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย นี่คือแนวคิดเบื้องต้นของวิธี Carry Trade และเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คน เข้าใจมันอย่างดี!

ด้านล่างคือรายการอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศ

ประเทศ อัตราดอกเบี้ย

Switzerland

-0.75%

Japan

-0.1%

Europe

0%

Great Britain

0.1%

Thailand

0.75%

New Zealand

0.25%

United States

0.25%

Canada

0.25%

Brazil

3%

Mexico

6%

อัปเดต: 8 พ.ค. 2020

โดยหลักการ Carry Trade จะเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินด้วยต้นทุนต่ำจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และนำเงินไปลงทุนในประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ตารางอัตราดอกเบี้ยข้างต้น หากมองอย่างอุดมคติ ก็สามารถกู้ยืมเงินจากประเทศ New Zealand ที่ต้องจ่ายคืนดอกเบี้ยแค่ 0.25% หลังจากนั้น ก็นำเงินไปลงทุนในประเทศ Mexico ที่จะได้รับดอกเบี้ยคืนมาถึง 6% ผลลัพธ์ก็คือ กำไรสุทธิที่ 5.25% (6% - 0.25%)

แน่นอนว่า นี่เป็นแค่การยกตัวอย่างแบบง่ายๆ ในความเป็นจริงแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่ายหรือจะได้รับนั้น จะขึ้นอยู่กับว่า คุณซื้อขายด้วยปริมาณที่มากขนาดไหนด้วย และนี่ยังไม่นับรวมพวกค่าคอมมิชชั่นการซื้อขายและต้นทุนต่างๆ ที่ต้องเสียให้กับธนาคารและโบรกเกอร์ที่คุณใช้อยู่ และจำนวนดอกเบี้ยที่คุณจะได้รับจะคำนวณบนพื้นฐานของหน่วย Pips

Carry Trade Forex คือ ? ทำงานอย่างไรในตลาด Forex

ตลาด Forex เป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับการใช้กลยุทธ์ Carry Trade ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเข้า Buy คู่เงิน EUR/USD นั้นหมายถึง คุณกำลัง "ซื้อสกุลเงินยูโร" ในขณะที่คุณก็กำลัง "ขายดอลลาร์สหรัฐฯ" ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งคุณสามารถทำ Carry Trade ได้จากมุมมองนี้ โดยที่ไม่ต้องบินไปกู้เงินจากสหรัฐฯ เพื่อบินไปซื้อสกุลเงินยูโรที่ยุโรป เพราะโบรกเกอร์ Admirals จะจัดการการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินให้คุณเอง

ในการเทรด Forex คุณจะต้องทำการเทรดผ่านโบรกเกอร์ และสถานะทั้งหมดของคุณในทางเทคนิค มันจะถูกปิดและเปิดใหม่อัตโนมัติ (นั้นคือในทางเทคนิค แต่เทรดเดอร์จะถือครองสถานะที่ราคาเดิมตลอด) แม้ว่าเวลาเปิด-ปิดของตลาด Forex จะดำเนินไปตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ก็ตาม แต่การทั้งโบรกเกอร์ปิดและปิดสถานะของคุณใหม่นั้น คุณจะได้รับ (หรือเสีย) ส่วนต่างดอกเบี้ยข้ามคืน มันคือการที่คุณได้รับการ Roll Over สัญญา หรือ Carry สถานะข้ามไปอีกวันนั้นเอง!

รากฐานของแครี่เทรดนั้น โบรกเกอร์จะใช้คำเรียกอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนนั้นว่า Forex Swap หรือ "ค่า Swap" ซึ่งคุณสามารถเช็คค่า Swap ของทุกสินค้าได้จากแพลตฟอร์มการซื้อขาย MT5 ที่ให้บริการโดย Admirals ได้ฟรี คุณสามารถดาวน์โหลดแพลต MetaTrader 5 ไปทดลองใช้ได้ฟรีๆ เพียงคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้!

แพลตฟอร์มที่มีสินทรัพย์ให้ลงทุนอย่างหลากหลาย

วิธีตรวจสอบดอกเบี้ย Carry Trade (Swap) ใน MT5

Carry Trade Forex คือ ? อะไรนั้น เริ่มต้นหลังจากดาวน์โหลด MT5 เสร็จแล้ว ให้เปิดหน้าต่าง Market Watch คลิกเลือกที่ View บนแท็บเมนูด้านบน หรือคุณสามารถกดปุ่มลัดเรียก Market Watch ด้วย Ctrl + M บนคีย์บอร์ดของคุณ มันจะแสดงรายชื่อสินค้าทั้งหมดที่คุณสามารถเทรดได้ หลังจากนั้น คลิกขวาที่ตราสารที่คุณสนใจ แล้วเลือก Specification โดยอาจจะไม่จำเป็นต้องดูแค่คู่เงิน Forex เพราะทองคำ, น้ำมัน เพราะสินค้าส่วนใหญ่จะมีค่าดอกเบี้ยข้ามคืนสำหรับ Carry Trade ทั้งสิ้น ดูตัวอย่างที่ภาพด้านล่าง

ค่า Swap ซึ่งต้องกดเลือก Specification ในแพลตฟอร์มการซื้อขาย MT5 จาก Admirals

หรือคุณอาจสามารถดูค่าธรรมเนียมถือสถานะข้ามคืน ผ่านเว็บไซต์ของ Admirals ได้ที่ Admirals Contract Specifications ดังที่ได้แสดงในตัวอย่างด้านล่างนี้ ซึ่งจะเป็นค่า Swap สำหรับคู่เงิน EUR/USD

ต้นทุนการทำ Carry Trade ของ EUR/USD (วันที่ 8 พ.ค. 2020)

ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า หากเป็นประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงกันมาก จะไม่สามารถทำ Carry Trade เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยยังไม่มากกว่าจะทำให้กำไรสุทธิเป็นบวก กรณีของ EUR/USD จะเห็นว่า การถือสถานะข้ามคืน คุณจะต้องเสียดอกเบี้ย Swap ทั้งฝั่ง Long หรือ Short

Carry Trade ที่ Swap เป็น "บวก"

วิธีการนี้คือการยืมเงินในสกุลเงินของประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ แล้วไปซื้อสกุลเงินของประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า เทรดเดอร์จะได้รับการดอกเบี้ยตามส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน และมากน้อยเท่าใดก็ขึ้นอยู่กับสถานะที่กำลังเปิดอยู่ด้วย

Carry Trade ที่ Swap เป็น "ลบ"

การซื้อขาย Carry Trade ที่จะทำให้ติดลบได้นั้น ง่ายๆ คือยืมสกุลเงินจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง แต่กลับไปซื้อซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ เทรดเดอร์จะต้องสูญเสียส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเพื่อถือครองสถานะข้ามช่วงเวลาที่กำหนด เช่น ข้ามวัน ยิ่งถือนานก็ยิ่งเสียค่า Swap เยอะขึ้น

คุณควรจะทราบว่า กำไรที่คุณได้จากค่า Swap หรือพูดง่ายๆ คือผลประโยชน์ดอกเบี้ยที่คุณได้จาก Carry Trade นั้น มันสามารถถูกหักล้างด้วยการอ่อนค่าของสกุลเงินที่เข้าไปถือ และในทางกลับกัน การสูญเสียใดๆ จากค่า Swap ที่เกิดขึ้นในการซื้อขายจาก Carry Trade ก็อาจถูกชดเชยด้วยการแข็งค่าของสกุลเงินที่ถืออยู่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เทรดเดอร์พยายามทำให้ได้คือต้องได้ค่า Swap และเข้าซื้อในจังหวะที่ดีด้วย เพราะมันจะเท่ากับว่า ได้ค่า Swap และถ้ากำไรส่วนต่างจากค่าเงินที่แข็งขึ้นด้วย

อาจจะดูเหมือนผลตอบแทนจากการทำ Carry Trade นั้นไม่ได้สูงมาก แต่หนึ่งในเหตุผลที่ตลาดฟอเร็กซ์ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำกลยุทธ์ Carry Trade นั้น คือการที่คุณสามารถเทรดด้วย Leverage ได้ ซึ่งหมายถึง คุณสามารถลงทุนได้ในปริมาณที่มากกว่าเงินที่คุณมีอยู่จริงๆ ทำให้กำไรที่ได้รับมากขึ้น (หรือขาดทุนมากขึ้น)

เริ่มเทรดด้วยบัญชีทดลอง!

เทรดเดอร์มืออาชีพที่เลือกเทรดกับ Admirals จะทราบกันดีอยู่แล้วว่า พวกเขาสามารถเทรดในตลาดโดยปราศจากความเสี่ยงใดๆ ได้จากระบบบัญชีทดลองเทรด (Demo Account) คุณสามารถทดลองกลยุทธ์ใหม่ๆ เทรดได้เหมือนตลาดจริงทุกประการ บนสภาพแวดล้อมจริงทุกประการ คำนวณเงินและราคาได้ตามตลาดจริง เพียงแต่เป็นการเทรดด้วยเงินที่จำลองขึ้นมาเท่านั้นเอง คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อเปิดบัญชีทดลองได้แล้ววันนี้ ฟรี!

เทรดบัญชีทดลองโดยปราศจากความเสี่ยง

ฝึกฝนการเทรดด้วยเงินจำลองฟรี

Carry Trade ความเสี่ยง

ทุกๆ กลยุทธ์ของการเทรด Forex มีความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง และเมื่อใช้กลยุทธ์แบบ Carry Trade ไม่ว่าประเทศหนึ่งๆ ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ปกติการที่ธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ ก็เพราะเศรษฐกิจกำลังต้องการการกระตุ้นให้ผู้บริโภคและธุรกิจ มีแรงจูงใจที่จะกู้ยืมเงินเพื่อไปใช้จ่ายหรือลงทุน นั้นหมายความว่า หากเรากู้เงินจากประเทศหนึ่งๆ ที่ดอกเบี้ยต่ำเพราะเศรษฐกิจไม่ดี แต่อยู่มาวันหนึ่งเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมา อัตราดอกเบี้ยก็สามารถเพิ่มสูงขึ้นได้ และจะทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยของเราหายไปทันที

ความเสี่ยงของวิธี Carry Trade อีกประการหนึ่ง ความจริงเป็นสิ่งที่เราพอจะเดาออกอยู่แล้ว คือการแข็งหรืออ่อนค่าของคู่เงิน Forex ที่เรากำลังทำการ Carry Trade อยู่ เพราะถ้าให้ลองสังเกตดีๆ เราจะพบว่า ประเทศที่เศรษฐกิจกำลังอ่อนแอ จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยให้ต่ำ และนั่นหมายถึง อาจจะจำเป็นต้องทำค่าเงินตัวเองให้อ่อนค่าอีกด้วย ในขณะเดียวกัน หากประเทศที่เศรษฐกิจดีมากๆ ดอกเบี้ยสูง ค่าเงินก็มักจะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ จากความต้องการใช้เงินสกุลเงินนั้น

ต่อจากข้างบน สมมติเข้าเรา Buy ในสกุลเงินที่ให้ดอกเบี้ยซื้อ เพื่อต้องการค่า Swap แต่หากวันหนึ่งเศรษฐกิจของประเทศนั้นค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นแล้ว จนถึงจุดที่การเติบโตเริ่มจะตันๆ ค่าเงินก็มักจะอ่อนค่าลง (เพื่อรักษาความได้เปรียบในการส่งออกได้อยู่) ดังนั้น หากเรากู้เงินมาซื้อสกุลเงินของประเทศนี้ที่ให้ดอกเบี้ย เราอาจจะได้ดอกเบี้ย แต่พอหักลบจริงๆ คุณอาจจะขาดทุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินก็เป็นได้ จะเห็นว่าการทำ Carry Trade (Buy คู่เงินที่ได้ Swap เป็นบวก) นั้นเกี่ยวข้องกับการคำนวณอยู่มาก

Carry Trade คู่ไหนดี

ก่อนอื่นให้คุณลืมความคิดในการเดินทางรอบโลกเพื่อขอยืมเงินในประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำๆ เพื่อจะนำเงินนั้นไปลงทุนในอีกประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง เพราะการทำแบบนั้น ไม่มีทางคุ้มค่าได้เลย และมันก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะเปิดบัญชีธนาคาร หรือบัญชีการลงทุนนอกประเทศที่คุณเป็นพลเมือง

วิธีที่ง่ายที่สุดคือการหาBroker ที่มีคุณภาพ ที่คุณจะสามารซื้อและขายเพื่อทำ Carry Trade ได้ภายใน 1 คลิก! ที่นี่ขั้นตอนต่อมาการที่คุณจะรู้ได้ว่า Carry Trade คู่ไหนดี คุณควรจะมองหาสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยติดลบมากๆ แน่นอนว่า ประเทศนั้นก็คือ Switzerland ที่ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยติดลบมากถึง -0.75% การที่คุณเข้า Sell ที่ CHF จะมีค่าเหมือนคุณกำลัง "ยืมเงิน" จาก Switzerland แล้วไปลงทุนอีกสกุลเงินหนึ่ง สูตรง่ายๆ คือควรจำคือ

  • Sell สกุลเงินที่ดอกเบี้ยต่ำๆ = เปรียบเหมือนกำลังกู้เงินจากประเทศนั้น
  • Buy สกุลเงินที่ดอกเบี้ยสูงๆ = เข้าไปถือสกุลเงินนั้น
นี่คือข้อมูลเฉพาะ (contract specification) ของคู่เงิน USDCHF จะเห็นว่า หากคุณเลือกที่จะ Long (หรือการ Buy) คุณจะได้ดอกเบี้ย Swap ที่อัตรา 0.013 Pips (อ้างอิง: 12 พ.ค. 2020)

ที่จะคุณ Buy ไปที่คู่เงิน USDCHF จะเปรียบเสมือนคุณได้ Sell ที่ตัว CHF --- แล้วกลับมา Buy ที่ USD หรือก็คือการไปกู้เงินจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยอัตราดอกเบี้ย -0.75% แล้วนำไปลงทุนที่ประเทศสหรัฐฯ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.25% แต่ความจริงคุณจะเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยที่คุณควรจะได้รับก็ควรจะอยู่ที่ 1% เมื่อนำ -0.75% หักออกจาก 0.25% อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างดอกเบี้ยที่หายไป นั้นมาจากต้นทุนที่เป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม เพราะไม่เป็นนั้น หากคุณต้องการบินไปกู้ยืมเงินด้วยตัวเอง คุณจะเสียค่าธรรมเนียมมากกว่านี้

ทั้งนี้ กำไรจากการถือ Carry Trade ในคู่ USDCHF ก็คือวันละ 0.013 Pips นั่นเอง โดยจะต้องนำไปคำนวณกับขนาดสัญญาที่คุณเทรดด้วย เช่น ถ้าคุณ Buy ที่คู่เงิน USDCHF เป็นจำนวน 1 Lot เมื่อเวลาผ่านไป 1 คืน จะได้กำไรจากดอกเบี้ย Carry Trade หรือค่า Swap เป็นจำนวน 0.013 USD ต่อวัน

นอกจากนี้ คู่เงินสามารถตอบคำถามว่า จะทำ Carry Trade คู่ไหนดี อาจสำรวจดังนี้

  • NZDCHF - คุณจะได้ดอกเบี้ยจากการ Buy วันละ 0.019 Pips
  • USDRUB - คุณจะได้ดอกเบี้ยจากการ Sell วันละ 11.715 Pips (โปรดศึกษาหน่วย Pips ของสกุลเงินรัสเซียอย่างละเอียด)

โปรดเข้าใจว่า นี่เป็นข้อมูลที่เข้าถึงเมื่อวันที่ 12 May 2020 แต่ทั้งนี้ ค่า Swap จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา (แต่ไม่มากนัก) ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ให้สภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ยแท้จริงในตลาด อย่างไรก็ตาม วันนี้เราพอจะตอบคำถามได้แล้วเหมือนกันว่า Carry Trade คู่ไหนดี โดยมันควรจะเป็นการ Sell ในสกุลเงินที่ดอกเบี้ยต่ำและมีความมั่นคงของประเทศ เช่น Switzerland และเราสามารถเลือกที่จะจับคู่กับสกุลเงินอื่นๆ ที่ดอกเบี้ยสูงกว่า เช่น USD, NZD เป็นต้น

และสำหรับการทำ Carry Trade ให้มีประสิทธิภาพนั้น ก็ต้องมีแพลตฟอร์มที่ดี คุณรู้หรือไม่ว่า Admirals ให้บริการแพลตฟอร์ม Metatrader ในเวอร์ชั่นที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเทรดของคุณ โดยคุณสามารถเทรดด้วยเครื่องมือเสริมขั้นสูงผ่าน MT4 และ MT5 ซึ่งมีทั้งฟีเจอร์ที่แสดงค่าความสัมพันธ์ของทุกสกุลเงินในตลาด ทำให้คุณสามารถเปรียบเทียบการอ่อนหรือแข็งค่าของแต่ละสกุลเงินได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังมี Widget เสริมให้คุณสามารถเทรดผ่านหน้าต่าง Window ขนาดเล็กได้โดยที่คุณก็ทำงานอื่นควบคู่ไปด้วยได้ และที่สำคัญก็คือ คุณสามารถโหลดไปใช้ได้ฟรี! คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่าง!

แพลตฟอร์มที่มีสินทรัพย์ให้ลงทุนอย่างหลากหลาย

ข้อดี-ข้อเสียของ Carry Trade

หนึ่งในข้อดีของการเทรดแบบ Carry Trade คือ การสามารถได้รับผลกำไรจากทั้งส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยจากสถานะที่ถือไว้ข้ามคืน ซึ่งสำหรับนักเทรดที่ชำนาญการใช้ Leverage แล้ว จะสามารถเพิ่ม Size ของการเทรดให้ใหญ่ขึ้น โดยการใช้ความผันผวนของตลาดในการเข้าไปซื้อในจังหวะที่ราคาของสกุลเงินยังถูกอยู่

นั่นหมายความว่า จากตัวอย่างถ้าเข้า Buy คู่เงิน USDCHF ในจังหวะที่ดีแล้วล่ะก็ นอกจากจะสามารถได้ส่วนต่างจากดอกเบี้ยค่า Swap แล้ว ก็มีโอกาสที่จะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาด้วย ถ้าเปรียบเป็นหุ้นก็เหมือนซื้อหุ้นที่ราคาต่ำแล้วสามารถไปขายได้ในราคาสูง โดยยังสามารถรับปันผลได้ตลอดเวลาอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของวิธี Carry Trade ก็มีเช่นกัน ข้อเสียแรกเป็นเรื่องของตลาด Forex เองที่เปิดโอกาสให้ใช้ Leverage สูงๆ ได้ ซึ่งอาจทำให้เทรดด้วยความไม่ระมัดระวัง หรือประมาทที่มองว่า ยังไงก็ได้ดอกเบี้ย Carry Trade นอกจากนี้ ข้อเสียสำคัญที่สุดของ Carry Trade คือเรื่องความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยค่า Swap จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามสภาวะตลาด จึงทำให้การคาดการณ์กระแสเงินสดจากอัตราดอกเบี้ยนั้นกระทำได้ลำบาก

ถึงเวลาขายของ! ทำไมควรทำ Carry Trade Forex กับ Admirals?

  • เปิดบัญชีทดลองได้ฟรี
  • และหากต้องการลงทุนในตลาดจริง เงินฝากขั้นต่ำเพียง 25 USD หรือประมาณ 750 บาทเท่านั้น!
  • มีหุ้นมากกว่า 4,000 รายการจากตลาดหุ้นสำคัญ 17 ตลาดทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เยอรมนี ฯลฯ
  • สามารถใช้ Leverage ได้สูงสุดถึง 1:1000 ทำให้ซื้อขายได้มากกว่าปกติ 1,000 เท่า เหมาะสำหรับการแก้สถานการณ์ต่าง

การเปิดบัญชีกับ Admirals นั้นสะดวกรวดเร็วมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีทดลองเทรด (Demo) หรือบัญชีจริง เพียงกรอกแค่ชื่อกับอีเมลเท่านั้น คุณก็จะได้รับอีเมลรหัสสำหรับการเข้าเทรด และลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมเทรด คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ได้เลย

บัญชีทดลองเทรด

ฝึกฝนการเทรดในตลาดจริงด้วยเงินจำลอง หรือ Demo Account เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการฝึกเทรดได้อย่างอิสระ มีระบบคำนวณกำไร-ขาดทุนแบบอัตโนมัติให้ศึกษา

คำถามที่พบบ่อยในการทำ Carry Trade

ข้อเสียของ Carry Trade คือ ?

การถือหลักทรัพ์ก็เหมือนกับการถือความเสี่ยง จากความไม่แน่นอนของอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้การใช้เลเวอเรจระดับสูงจึงหมายความว่าการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของอัตราแลกเปลี่ยนก็อาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้ในจำนวนมาก หากเทรดเดอร์ไม่ป้องกัน position ของตนอย่างเหมาะสม

 

การทำ Carry Trade กับการเก็งกำไรต่างกันอย่างไร ?

Carry Trade คือ การซื้อขายที่นักลงทุนซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง อาจเป็นพันธบัตรที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง มีเงินปันผล หรือการซื้อขายในในสกุลเงิน แต่การเก็งกำไรคือกลยุทธ์ที่นักลงทุนโฟกัสที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (CFD) และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

 

ต้นทุนการทำ Carry Trade คือ ?

ต้นทุนการทำ Carry Trade คือต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับมูลค่าตามบัญชีของการลงทุน ซึ่งต้นทุนเหล่านี้อาจรวมถึงต้นทุนทางการเงิน เช่น ต้นทุนในดอกเบี้ยพันธบัตร ดอกเบี้ยจ่ายในบัญชีมาร์จิ้น ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ใช้ในการลงทุน และต้นทุนการจัดเก็บที่เกี่ยวข้องกับการถือครองสินทรัพย์ที่จับต้องได้

 บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เกี่ยวกับ Admirals

Admirals เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ชนะรางวัลมากมาย อีกทั้งได้รับ ใบอนุญาตและกำกับดูแลจากหลายประเทศทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารการเงินมากกว่า 8,000 รายการผ่านแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เริ่มเทรดเลยวันนี้

คำปฏิเสธข้อเรียกร้อง (Disclaimer): เอกสารนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำการลงทุน, การให้คำปรึกษาด้านการลงทุน, ข้อเสนอหรือคำชักชวนให้ทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน โปรดทราบว่า ในกรณีของการวิเคราะห์การซื้อขายใด ๆ ที่อ้างอิงถึงผลการดำเนินงานหรือสถิติในอดีต พฤติกรรมของข้อมูลดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนใด ๆ คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงเป็นอย่างดีแล้ว

TOP ARTICLES
6 กลยุทธ์การเทรดและเทคนิคการเทรด Forex สำหรับปี 2024!
ไม่ว่าการที่มีกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพมาช่วยในการนำทางการเทรดในตลาดการเงินนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด รวมไปถึงการตัดสินใจลงทุนให้กับคุณได้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่อะไรที่ถือเป็นเทคนิคการเทรดที่มีประสิทธิภาพ และยิ่งไปกว่านั้นคือคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรคือเทคนิคการเทรดยอดเยี่ยมที่สุดแห่งปีที่ส...
แนวรับ แนวต้าน ในการเทรด Forex หุ้น ทองคำ และ Indicator แนวรับแนวต้าน ที่คุณต้องรู้จัก!
แนวรับ แนวต้าน เครื่องมือสำคัญในการเทรด Forex และยังถือเป็นพื้นฐานหลักในการเทรดและการวิเคราะห์ตลาดการเงินอื่นๆ ด้วย โดยวิธีดูแนวรับแนวต้านหรือเครื่องมือหาแนวรับแนวต้านนี้จะใช้ Indicator แนวรับแนวต้าน หรือที่เราเรียกกันว่าตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้าน เป็นเครื่องมือสำคัญในการซื้อขาย Forex และ CFD ซึ่งบทค...
Scalping คือ ? พร้อมเทคนิค Scalping ใน 1 นาที ฉบับใช้ได้จริง!
Scalping คือ ? ถึงแม้ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มหัดเทรดใหม่ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเคยได้ยินคำว่า 'scalping' มาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาแนะแนวความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้นหรือที่เรียกกันว่า 'Scalping Forex' รวมทั้งสอนกลยุทธ์และเทคนิคต่างๆ ในการเทรดแบบ Scalping ด้วย ในที...
ดูทั้งหมด